หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20 : What I Wish I Knew When I Was 20

หน้าตาหนังสือเป้นแบบนี้จ้า
อ.Tina Seelig – ผู้เขียน สอนที่ Standford


วันนี้ไม่ได้มาพูดเกี่ยวกับเครื่องสำอางนะคะ แต่ตอนนี้อยากได้หนังสือเล่มนี้มาก ชื่อว่า "น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20 : What I Wish I Knew When I Was 20" เป็นหนังสือที่เห็นผ่านๆ ตามมาซักระยะหนึ่งแล้ว เป็น best seller ในหลายๆ ที่ แต่ที่อยกได้มากๆ จริง คือได้ไปสัมผัสเล่มจริงที่ SE-ED  สัปดาห์ที่แล้ว ราคา 170 บาท แต่มันอ่านไม่ได้อ่ะ เค้าหุ้มพลาสติกไว้ เฮ้อ แต่อ่านแค่ปกหน้าปกในก็น่าสนใจอ่ะ ประกอบกับช่วงนี้ อยากอ่านหนังสือประเภทนี้พอดีเลย ที่จริงหนังสือแนวๆ นี้เราก็มีหลายเล่มนะ แต่อยากจะหาไรใหม่ๆ อ่านบ้าง ตอนนี้ไม่มีไฟยังไงไม่รู้

ที่จะเขียน คงไม่อาจหาญวิจารณ์หรือเขียนรีวิวนะคะ ไม่ได้เก่งหรือมีสาระขนาดนั้น เอาเป็นว่า สำหรับใครที่สนใจ นี่จะเป็นการรวบรวมข้อมูล ประกอบการตัดสินใจ ถ้าใครอยากจะซื้อ (ป.ล. ตัวเองสั่งซื้อแล้วแต่หนังสือยังมาไม่ถึง) ส่วนตัวไม่ได้หาข้อมูลมากนัก มีความอยากเป็นตัวขับเคลื่อนเท่านั้นเอง อยากได้ๆๆ

1. เนื้อหาโดยภาพรวมของหนังสือ 

ข้อมูลโดยทั่วไป
ISBN         : 9786167164618 (ปกอ่อน) 200 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 138 x 210 x 12 มม.
น้ำหนัก         : 235 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : วีเลิร์น, สนพ.

เนื้อหาโดยสังเขป
การเปลี่ยนผ่านจากชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยสู่ชีวิตการทำงานเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับคนส่วนใหญ่เพราะมันทั้งสับสน เคว้งคว้าง ไม่แน่นอนและไม่รู้จะเลือกทางเดินชีวิตอย่างไรดี หลายๆ คนเลือกเส้นทางผิดจนต้องพบกับชีวิตที่ไม่ใช่ ชีวิตที่รู้สึกเสียดายทุกครั้งที่มองย้อนกลับไป แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแล้วก็ตาม แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เพราะพวกเขาได้เรียนรู้เคล็ดลับต่างๆ เพื่อเตรียมตัวเองให้พร้อมสำหรับชีวิตการทำงานและการทำธุรกิจ ผ่านภารกิจอันสุดท้าทายและการสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่น่าจะเป็นไปได้นับไม่ถ้วน 

ซึ่งในเล่มนี้ได้รวบรวมเนื้อหากรณีศึกษาตลอดจนแบบฝึกหัดต่างๆ ที่ใช้จริงในชั้นเรียนโดยละเอียด ราวกับผู้อ่านได้เข้าไปนั่งเรียนด้วยตัวเอง เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้กับชีวิตและก้าวข้ามหลุมพรางที่คนส่วนใหญ่พลาดตกลงไป ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมีอายุ 20 30 40 หรือ 50 ปีก็ตามแล้วชีวิตคุณจะไม่เหลืออะไรให้ต้องเสียดายอีกต่อไป

สารบัญ
บทที่ 1 ซื้อหนึ่ง แถมสอง : มองปัญหาให้เป็นโอกาส
บทที่ 2 ละครสัตว์แบบกลับตาลปัตร : ตีลังกามองโลก
บทที่ 3 ซูชิหน้าแมลงสาบ : เปลี่ยนเรื่องเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
บทที่ 4 โปรดหยิบกระเป่าสตางค์ของคุณขึ้นมา : อย่ารอให้ใครมาอนุญาตให้คุณประสบความสำเร็จ
บทที่ 5 ซอสปรุงรสสูตรลับของซิลิคอนวัลเลย์ : เหตุผลดีๆ ที่ควรล้มเหลว
บทที่ 6 ไม่เอาหรอก...วิศวะน่ะมันเรื่องของผู้หญิง : ความสามารถ ความรัก และความต้องการของตลาด
บทที่ 7 เปลี่ยนน้ำมะนาวให้กลายเป็นเฮลิคอปเตอร์ : วิธีสร้างโชคดีให้ตัวเอง
บทที่ 8 วาดเป้ารอบๆ ดูลูกธนู : เคล็ดลับที่จะพาคุณข้ามหลุมพรางที่คนส่วนใหญ่พลาดตกลงไป
บทที่ 9 นี่จะออกข้อสอบไหม : ถ้าอยากก้าวไปให้ไกล อย่าทำแค่พอผ่าน
บทที่ 10 สิ่งแปลกปลอมในการทดลอง : สิ่งที่ฉันน่าจะรู้ตั้งแต่อายุ 20

Cr. ข้อมูลจาก SE-ED เพิ่มเติม คลิกที่นี่

2. รีวิวหนังสือ "น่าจะรู้อย่างนี้ตั้งแต่ตอนอายุ 20 : What I Wish I Knew When I Was 20"

ผู้เขียน : Tina Seelig

ผู้แปล : พรเลิศ อิฐฐ์, ธัญลักษณ์ เศวตศิลา

        ผู้เขียน Tina Seelig เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หนังสือเล่มนี้เลยถ่ายทอดประสบการณ์ในบทเรียนที่เธอใช้สอนลูกศิษย์ เช่นบทเรียนที่เธอสอน กิจกรรมที่ให้นักศึกษาจับกลุ่มทำ และยังมีเรื่องราวจากประสบการณ์ของเธอเองไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวต่างๆที่ได้เจอมาในชีวิตของเธอเอง คนรอบตัว

          ซึ่งคำว่า น่าจะรู้ตั้งแต่ตอนอายุ 20 นี้ผู้เขียนก็หมายความว่า เขาอยากให้ตัวเขาเองได้รู้เรื่องราวต่างๆในหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ตอนที่ยังอายุแค่ 20

        มาพูดถึงเนื้อหาในเล่มนี้กันดีกว่าครับ เนื้อหาแบ่งออกเป็นสิบบทที่แต่ละบทก็จะเน้นการพัฒนาตนเองในด้านความคิดและการตัดสินใจเกี่ยวกับเหตุการณ์ต่างๆ ถ่ายทอดออกมาผ่านเรื่องราวจากประสบการณ์ของทั้งตัวผู้เขียนเองและบุคคลรอบข้างที่ผู้เขียนได้เจอมา
     
        ผมเป็นคนที่ชอบอ่านเรื่องราวประสบการณ์นะ เพราะมันเป็นอะไรที่คนเล่ามักจะคัดเลือกเรื่องราวดีๆออกมาแล้วก่อนที่จะเล่า ซึ่งจะทำเราให้ได้เรียนรู้วิธีคิดและการตัดสินใจของเค้าในสถานการณ์นั้นๆ
 คลิกที่นี่เพื่ออ่านต่อ  cr.http://www.rvbookthai.com

และรีวิวหนังสือสุดเจ๋ง โดย iyom-bookviews รีวิวนี้ดีมาก สำหรับใครที่ไม่มีเวลาอ่านมากนัก บล็อกนี้จะเป็นสรุปใจความสำคัญๆ ไว้ให้คุณ เข้าไปอ่าน คลิกเลย

ลิ้งค์รีวิวจากเว็บ www.goodreads.com จากผู้อ่านภาคภาษาอังกฤษ ใครอยากรู้ว่าฝรั่งหรือชาวต่างชาติคิดยังไงเกี่ยวกับหนังสือเล่มนี้เข้าไปอ่านได้จ้า click HERE

3. หาซื้อหนังสือกันเถอะ

1. ซื้อจากเว็บของสำนักพิมพ์ welearn ราคา 145 บาท +ค่าขนส่ง สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่

2. ซื้อจากเว็บของ SE-ED ราคา 161.50 บาท +ค่าขนส่ง  สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่ 

3. ซื้อจากเว็บของ Asiabook ราคา 161 บาท ราคาค่าส่งน่าจะคิดตามน้ำหนักรึเปล่าไม่แน่ใจ สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่

4. ซื้อจากเว็บ booksmile ราคา 145 บาท ค่าขนส่งฟรีถ้าเรารับหนังสือที่ 7-11 สาขาใกล้บ้าน และค่าบริการฟรีถ้าเรา จ่ายที่ counterservice สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่

5. ซื้อจากเว็บร้านนายอินทร์ ราคา 153 บาท ค่าขนส่งไม่แน่ใจ สนใจสั่งซื้อ คลิกที่นี่

6. ซื้อจากร้านหนังสือ ราคาเต็ม 170 บาท ส่วนลดถ้าเราเป็นสมาชิกร้านค้านั้น ลดเยอะหรือเปล่าก็แล้วแต่ร้านและ Promotion ขณะนั้น

เปรียบเทียบการซื้อของในเว็บและหน้าร้าน

1. สั่งซื้อในเว็บราคาถูกกว่าหน้าร้านแน่นอน

2. ในเว็บมีค่าขนส่งด้วย (บางเว็บก็ไม่มี แต่ส่วนใหญ่มี) เผลอค่าส่งบวกกับราคาของแล้ว แพงกว่าหน้าร้านอีก

3. ถ้าเราจ่ายเงินกับเว็บไซต์ ไม่ว่าจะโอนผ่านธนาคาร หรือ counter service จะมีค่าบริการ ยกเว้นว่าเรามีบัญชีธนาคารเดียวกับเว็บที่เราซื้อจะไม่มีค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียม โอนเงินต่างธนาคาร 25 บาท counter service 15 บาทต่อบิล จ่ายด้วยบัตรเครดิตก็เก็บค่าธรรมเนียมอีก คิดให้ดี ราคาสินค้าบวกค่าธรรมเนียมนู่นนี่นั่น รวมกับค่าส่งแพงกว่าซื้อจากร้านอีก

4. ซื้อจากร้านได้ของทันทีไม่ต้องรอ แต่ไม่ใช่ว่าทุกร้านจะมีของ บางทีต้องจองไว้ก่อนรอของมา เสียเวลารอเหมือนเดิม แต่ในเว็บหาของได้ทันที ส่ง eMS 1-2 วันก็ได้ของละ รอสินค้ากับร้านนานกว่าอีกบางที

5. การซื้ออะไรก็ตามคิดพิจารณาทุกค่าใช้จ่ายให้ดี ใครๆ ก็ต้องการของถูกๆ ใช่มั้ยละ

พิเศษสุดๆ สามารถยืมอ่านฟรีได้ ที่นี่ คลิกเลย ไม่ผิดหรอกคะ ฟรีจริงๆ โดยคุณบิล


ป.ล. นอกเรื่องเคยไปเยี่ยมชม standford university มาแล้วเมื่อ ธันวาปี 54 มหาลัยสวยมากน่าเรียน นี่ยังไม่นับรวมกับชื่อเสียงมหาลัย ความเก่งกาจของอาจารย์ และความสามารถของศิษย์เก่า เป็นวาสนาที่ครั้งหนึ่งได้ไปเยือน ถ้ามีลูกก็อยากให้ลูกได้เรียนที่นี่ละนะ เพ้อๆๆๆ 
มองจากหอคอย รอบๆมหาลัย


เยี่ยมชม bestNZproduct ผูู้สนับสนุนบทความนี้




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น