หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

จะใช้ครีมกันแดดทั้งที...จะเลือกยังไงดีนะ

cr.ภาพ praew.com

หน้าร้อนแล้วสาวๆ ใครไม่ทาครีมกันแดดระวังหน้าดำกันนะคะ ครีมกันแดดนี่ถือว่าเป็นเครื่องสำอางพื้นฐาน สามัญที่ต้องมีติดตัวไว้เสมอ เพราะอันตรายจากรังสี UV ที่มากับแสงแดดนั้นเราก็รู้ๆ กันอยู่ว่าร้ายแรงจนสามารถก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้

แต่จะใช่ครีมกันแดดทั้งที มาดูว่าเราจะเลือกครีมกันแดดอย่างไร ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และคุ้มค่าที่สุด เพราะอย่าลืมว่าเราต้องใช้มันทุกวันนะคะ

ครีมกันแดดกับสาวเมืองร้อนมก็ต้องเป็นของคู่กันอย่างแยกไม่ออกใช่ไหมล่ะคะ แต่จะเลือกซันบล็อกชนิดไหนดีที่จะมาเก็บล็อคความชุ่มชื่นของผิวสวยไม่ให้สูญเสียไปในซัมเมอร์นี้ พร้อมปกป้องรังสียูวีทั้งหลายไม่ให้มากล้ำกลายผิวให้หมองคล้ำ ว่าแล้วก็ไปทำความรู้จักกับครีมกันแดด อาวุธลับของผิวสวยสำหรับพิชิตเจ้าแดดตัวร้ายของร้อนนี้กันดีกว่าค่ะ

ค่า "SPF" และ "PA" คือ?

SPF = Sun Protection Factor
เป็นค่าของการปกป้องแสงแดด โดยส่วนใหญ่จะคำนวณจากปริมาณการป้องกันรังสี UVB แสดงถึงความสามารถในการปกป้องผิวจากการถูกเผาไหม้จากแสงแดดได้นานเท่าไหร่ เช่น SPF15 หมายถึง ป้องกันผิวจากการไหม้ได้ 15 เท่า เช่น ถ้าสาวๆ ไม่ได้ทาครีมกันแดด แล้วออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง จะทำให้ผิวเกิดอาการแสบร้อนภายใน 20 นาที แต่ถ้าหากทาครีมกันแดด SPF15 แล้ว จะทำผิวที่ถูกแสงแดดจนทำลายผิวให้ไหม้นั้น ต้องใช้เวลาเป็นจำนวน 15 เท่าของ 20 นาที หรือประมาณ 300 นาที (5 ชั่วโมง) ผิวถึงจะถูกไหม้จากแสงแดดนั่นเองค่ะ

PA = Protection Grade of UVA
ครีมกันแดดมักประกอบไปด้วย UVA Filter รวมอยู่ด้วย เป็นค่าที่วัดการป้องกันรังสี UVA เรียกว่า PA ค่า PA นั้นจะมี 3 ระดับคือ PA+ สำหรับสาวที่ต้องการปกป้องแสงแดดจากกิจกรรมทั่วๆ ไป PA++ สำหรับสาวที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน และ PA+++ สำหรับสาวที่ต้องการการปกป้องจากแสงแดดจัดๆ
cr.ภาพ http://www.bumrungrad.com/

ครีมกันแดดเยอะไปหมด ตกลงมีชนิดไหนกันบ้าง?
Chemical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดที่มีคุณสมบัติดูดซับแสงแดดบางชนิดกันได้แต่ UVA หรือ UVB อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่บางชนิดก็สามารถกันได้ทั้ง UVA และ UVB ซึ่งหลังจากโดนแดดสักพัก สารเคมีเหล่านี้ก็เสื่อมสภาพ นั่นคือสาเหตุที่สาวๆ ต้องทาครีมกันแดดทุกๆ 2-3 ชั่วโมง สาวๆ บางคนที่เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณมากตามลำดับ อาจเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้เช่นกัน

Physical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดที่สามารถสะท้อนรังสี UVA และ UVB ออกไปจากผิวหนังได้ และมีการระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่าสารในกลุ่มแรก แต่ไม่สามารถให้ SPF ที่ค่าสูงๆ ได้ และเนื่องจากสารจะเคลือบบนผิวหนังชั้นบน เพื่อรอแสงกระทบ จึงมีการดูดซึมลงสู่ชั้นผิวน้อย และเนื้อครีมจะทำให้ผิวจะดูขาวจนเกินไป

แบบผสม Chemical + Physical Sunscreen
เป็นครีมกันแดดที่ผสมระหว่าง Chemical และ Physical Sunscreen สามารถลดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เนื้อครีมสามารถดูดซึมลงสู่ชั้นผิวได้ดีขึ้น ไม่เกาะหนาอยู่บนผิวมากเกินไป

SPF เท่าไหร่ดีนะ?
สำหรับสาวโซนเอเชียโดยเฉพาะประเทศไทยนั้น ควรใช้ครีมกันแดดที่ชนิดน้ำเพราะมีเนื้อบางเบา ทาง่ายไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำให้สบายตัวด้วยค่ะ และควรมีส่วนผสมของแอนตี้ออกซิแดนซ์ที่สามารถปกป้องเซลล์ผิวได้อย่างล้ำลึก และช่วยปกป้องคอลลาเจนภายในผิวอีกด้วย ส่วนวิธีทาครีมกันแดดนั้น ควรทาก่อนออกกลางแจ้งประมาณ 15-20 นาที และควรทาให้ทั่วถึงจึงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด การป้องกันจะครบถ้วน ขึ้นอยู่กับปริมาณเนื้อครีมที่เพียงพอด้วยนะคะสาวๆ ถ้าทาในปริมาณที่น้อยเกินไป ค่า SPF ก็จะไม่ได้ผลตามค่า SPF นั้นๆ นะ ซึ่ง และควรทาซ้ำ เมื่อสภาพผิวเริ่มมีอาการแสบและแดง 
ผิวไหม้แดดง่าย โดยผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนยาก ใช้ค่า SPF 20-30 (Ultra high)
ผิวไหม้แดดง่าย โดยผิวอาจมีสีแทนนิดหน่อย ใช่ค่า SPF 12-20 (Very high)
ผิวไหม้แดดปานกลาง และผิวค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีแทนใช้ค่า SPF 8-12 (High)
ผิวไหม้แดดได้น้อย และผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้เสมอ ใช่ค่า SPF 4-8 (Moderate)
ผิวไหม้แดดยากมาก และผิวเปลี่ยนเป็นสีแทนได้อย่างมาก ใช้ค่า SPF 2-4 (Minimal)


ตัวอย่างค่า SPF
ค่า SPF เท่ากับ 2 จะดูดซับ UVB ได้ 50% 
ค่า SPF เท่ากับ 4 จะดูดซับ UVB ได้ 75% 
ค่า SPF เท่ากับ 8 จะดูดซับ UVB ได้ 87.5% 
ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ 93.3% 
ค่า SPF เท่ากับ 20 จะดูดซับ UVB ได้ 95% 
ค่า SPF เท่ากับ 30 จะดูดซับ UVB ได้ 96.7% 
ค่า SPF เท่ากับ 45 จะดูดซับ UVB ได้ 97.8% 
ค่า SPF เท่ากับ 50 จะดูดซับ UVB ได้ 98%

จากตัวอย่างจะเห็นว่า ค่า SPF เท่ากับ 15 จะดูดซับ UVB ได้ถึง 93.3% แล้วซึ่งถือว่ามากพอสมควร เมื่อ SPF เพิ่มขึ้นจะเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องรังสี UVB ก็ไม่แตกต่างกันมากนัก และอีกทั้งครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงมักจะทำให้ผิวของสาวๆ ระคายเคือง แถมยังมีราคาสูงอีกด้วยนะคะ ร้อนนี้ก็หวังว่าสาวๆ คงจะเลือกสรรครีมกันแดดมาใช้ได้อย่างเหมาะสมกับผิวของตัวเองอย่างสบายอารมณ์กันนะคะ




เอื้อเฟื้อข้อมูล นพ.ประวิตร พิศาลบุตร และ women.sanook

และสุดท้ายฝาก กันแดด Umbrella ด้วยนะคะ ^_^
http://www.facebook.com/yourchoicebyricha 


วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ว่าด้วยครีมกันแดดกับผู้ชาย


ว่าด้วยเรื่องคุณผู้ชายกับครีมกันแดด ใครชอบทากันแดดแล้วเป็นแบบในภาพบ้าง?

ไม่ว่าคุณจะออกแดดกลางแจ้ง หรือ นั่งทำงานอยู่หน้าคอมใน Office ผู้ชายทุกคนก็ต้องทาครีมกันแดดนะคะ เพราะว่า รังสี UV มีอยู่ทุกที่ แต่ความเข้มและความแรงก็แตกต่างกันไป ถึงแม้ว่าคุณจะนั่งทำงานอยู่แต่หน้าคอมก็ตาม จอคอมก็สามารถปล่อยรังสีUV ได้นะ แต่อาจจะไม่เข้มเท่าแสงแดด เท่านั้นเอง

และหากคุณจะบอกว่า ทาครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของสารกันแดดอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องลงกันแดดอีก ก็คิดผิดคะ ในครีมบำรุงที่ผสมสารกันแดดนั้น มีสารกันแดด เพียงน้อยนิด มันไม่ได้ช่วยในการกันแดดอะไรมากหรอก เพราะฉนั้น ทาครีมกันแดดทับลงไปอีกรอบดีกว่า 

การเลือกครีมกันแดดสำหรับผู้ชายนั้น นอกจากจะเลือก แบบที่เราไม่แพ้แล้ว ก็ต้องเลือกดูแบบที่ไม่ดูสว่างไปเกินสีผิวจริงของเราด้วย เพราะจะทำให้เกิดเหตุที่เรียกว่า หน้าลอย หรือหน้า วอก ขึ้นมาทันที เพราะครีมกันแดดบางชนิด ก็จะไม่ใช่แค่ครีมกันแดด อย่างเดียว อาจจะผสมสารรองพื้นลงไปด้วย

แนะนำตัวนี้คะ

สั่งซื้อ ตามนี้คะ
1. LINE : richapari
2. E-Mail : pom.parichat@gmail.com
4. Instragram : @richapari

1. กันแดดทาหน้า Umbrella ขนาด 20 ml ราคา 320 จากปกติ 470
นัดรับสินค้า 350 บาท จัดส่งทางไปรษณีย์ 320 + ค่าส่ง ลงทะเบียน 30 หรือ ems 55

2. Sunday by Umbrella กันแดดทาตัว ขนาด 100 ml ราคา 385 จากปกติ 570
นัดรับสินค้า 420 บาท จัดส่งทางไปรษณีย์ 385 + ค่าส่ง ลงทะเบียน 30 หรือ ems 55

ข้อมูลเพิ่มเติม 

1. ข้อมูลเกี่ยวกับ umbrella ทั้งหมด 
2. รวมรีวิวโดยป้าพิม beauty blogger 
3. รีวิวจากเพจ Your Choice